เรียนต่อต่างประเทศต้องสอบอะไรบ้าง รวมคะแนนสำคัญที่สามารถใช้ได้!

อยากเรียนต่อต่างประเทศใช้คะแนนอะไรได้บ้าง

การตัดสินใจส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่สำคัญ แต่คำถามที่ตามมาคือ เรียนต่อต่างประเทศต้องสอบอะไรบ้าง เพราะแต่ละประเทศและแต่ละสถาบันการศึกษาก็มีข้อกำหนดด้านคะแนนสอบที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องและเพิ่มโอกาสในการเข้าเรียนในโรงเรียนที่ต้องการ บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคะแนนสอบสำคัญที่ใช้ในการสมัครเรียนต่อมัธยมในต่างประเทศ พร้อมแนะนำปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการพิจารณารับเข้าเรียน

เรียนต่อต่างประเทศ ใช้คะแนนข้อสอบอะไรได้บ้าง ระดับมัธยมปลาย

สำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อระดับมัธยมในต่างประเทศ มีข้อสอบเฉพาะหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละประเภทจะใช้เพื่อวัดความพร้อมทั้งด้านภาษา ความรู้พื้นฐานทางวิชาการ และทักษะการคิดวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องสอบทุกอย่างเสมอไป เพราะแต่ละประเทศ หรือแต่ละโรงเรียนจะมีข้อกำหนดต่างกัน บางแห่งอาจใช้ผลสอบเพียงบางประเภทเท่านั้น มาดูกันเลยว่า ใช้คะแนนสอบอะไรได้บ้าง

1. AEAS (Australian Education Assessment Services)

การสอบ AEAS เป็นระบบการวัดผลที่ได้รับการยอมรับจากโรงเรียนมัธยมในออสเตรเลีย ใช้สำหรับประเมินความสามารถของนักเรียน ทั้งภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และตรรกะ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการเข้าเรียน Year 4-11 เพราะเป็นปีชั้นการศึกษา ที่ต้องการสมัครเข้าเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาในออสเตรเลีย ใช้เวลาในการสอบรวมประมาณ 3.30-5 ชั่วโมง

ข้อสอบ AEAS แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก

  • ภาษาอังกฤษ ขึ้นอยู่กับระดับชั้นของนักเรียน โดยจะทดสอบการฟัง การอ่าน การเขียน ไวยากรณ์และคำศัพท์
  • คณิตศาสตร์ ใช้เวลา 45 นาที วัดทักษะการคิดคำนวณพื้นฐานและการแก้ปัญหา
  • การทดสอบตรรกะ (Non-Verbal Reasoning) เป็นการวัดความสามารถเชิงตรรกะหรือ IQ โดยใช้รูปภาพและสัญลักษณ์ เพื่อให้ผลไม่ถูกจำกัดด้วยความรู้ภาษาอังกฤษ โรงเรียนในออสเตรเลียหลายแห่งให้ความสำคัญกับคะแนนส่วนนี้อย่างมาก เพราะเชื่อว่าเด็กที่มีศักยภาพทางตรรกะที่ดีจะสามารถพัฒนาภาษาได้ในภายหลัง

การสอบ AEAS ช่วยให้โรงเรียนประเมินความพร้อมของนักเรียนในการเข้าเรียนในระบบการศึกษาออสเตรเลีย และตัดสินใจว่า นักเรียนเหมาะจะเข้าเรียนในระดับชั้นไหน และควรได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมเรื่องภาษาอังกฤษหรือไม่

นักเรียนที่สนใจสอบ AEAS สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล และนัดหมายวันสอบกับทาง CETA ได้ที่ 02-712-5300 (สามารถติดต่อนัดหมายวันและเวลา ล่วงหน้าได้อย่างน้อย 10 วันทำการก่อนวันสอบ)

เรียนต่อต่างประเทศต้องสอบอะไรบ้าง

2. CAT4 (Cognitive Abilities Test)

CAT4 เป็นการทดสอบความสามารถทางปัญญาที่ใช้ในโรงเรียนชั้นนำหลายแห่งในสหราชอาณาจักร รวมถึงโรงเรียนนานาชาติอันดับต้น ๆ ในไทย การทดสอบนี้เหมาะสำหรับนักเรียนอายุ 6-17 ปี และใช้เวลาทั้งหมด ไม่เกิน 3 ชั่วโมง แต่ละส่วนให้เวลา 45 นาที

CAT4 ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก

  • Quantitative Reasoning วัดทักษะคณิตศาสตร์ 
  • Verbal Reasoning วัดความสามารถในการเข้าใจและเชื่อมโยงความหมายของคำศัพท์
  • Non-Verbal Reasoning วัดทักษะเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจากรูปทรง รูปภาพ และแผนภาพ โดยไม่มีคำศัพท์หรือตัวเลข
  • Spatial Reasoning วัดความสามารถในการบ่งบอกลำดับหรือกฎจากรูปทรง/รูปภาพที่กำหนดในเชิงสามมิติ

3. UKiset

UKiset เป็นข้อสอบเข้าโรงเรียนเอกชนในอังกฤษ ที่ใช้ประเมินนักเรียนต่างชาติอายุ 9-18 ปี การสอบใช้เวลาประมาณ 2-2.30 ชั่วโมง และช่วยโรงเรียนประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครรวมถึงระบุจุดแข็งและจุดอ่อนในการเรียน

เรียนต่อต่างประเทศต้องสอบอะไรบ้าง สำหรับ UKiset จะมี 4 ส่วนหลัก

  • Vocabulary: ประเมินความสามารถในการจดจำคำศัพท์และความหมายของคำศัพท์
  • Mathematics: ประเมินความเข้าใจคณิตศาสตร์
  • Non-Verbal Reasoning: ประเมินการแก้ปัญหาผ่านรูปภาพและแผนภาพ
  • Other English Skills: ทักษะภาษาอังกฤษอื่น ๆ เช่น การอ่าน การฟัง และการเขียนเชิงสร้างสรรค์

4. IELTS

IELTS (International English Language Testing System) เป็นข้อสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา การสอบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที

โครงสร้างข้อสอบ IELTS ประกอบด้วย 4 ส่วน

  • Listening การฟัง 30 นาที ทดสอบความเข้าใจจากการฟังบทสนทนาและการบรรยาย
  • Reading การอ่าน 60 นาที ทดสอบความเข้าใจจากการอ่านบทความและเอกสารต่าง ๆ
  • Writing การเขียน 60 นาที ทดสอบความสามารถในการเขียนเรียงความและรายงาน
  • Speaking การพูด 11-14 นาที ทดสอบการสนทนาและการแสดงความคิดเห็น

คะแนน IELTS วัดเป็นระดับ 1-9 โดยควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ 6.5 ขึ้นไปจะดีที่สุด เพื่อให้มั่นใจและเพิ่มโอกาสในการตอบรับเข้าเรียนต่อ

เรียนต่อต่างประเทศ คะแนน

5. TOEFL

TOEFL (Test of English as a Foreign Language) เป็นอีกหนึ่งข้อสอบภาษาอังกฤษมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งเป็นการสอบแบบใช้ภาษาอังกฤษด้วย American English หรือภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน โดยส่วนใหญ่ 

หากเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมปลาย จะนิยมสอบ TOEFL Junior เป็นแบบทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อประเมินระดับความรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนในสถานการณ์จริงที่ใช้ในชีวิตประจำวันและในห้องเรียน ข้อสอบนี้เหมาะสำหรับผู้สอบที่มีอายุระหว่าง 10-17 ปี หรือเทียบเท่าระดับชั้นประถมศึกษาปลายถึงมัธยมศึกษาตอนต้น

โครงสร้างหลักของข้อสอบ TOEFL มี 4 ส่วน

  • Reading: 20 ข้อ 35 นาที
  • Listening: 36 ข้อ 28 นาที
  • Speaking: 4 โจทย์ 16 นาที
  • Writing: 2 โจทย์ 29 นาที 

6. Placement Test ของโรงเรียน

นอกเหนือจากการสอบมาตรฐานสากลข้างต้น โรงเรียนบางแห่ง อาจมีการจัดสอบ Placement Test ของตนเอง จุดประสงค์ของการสอบนี้คือเพื่อวัดระดับทักษะความสามารถของนักเรียนในด้านต่าง ๆ เช่น ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ หรือวิชาการเฉพาะทาง เพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดระดับชั้นเรียนที่เหมาะสม หรือวางแผนการเรียนรู้ที่ตรงกับความสามารถของนักเรียนแต่ละคน ข้อสอบประเภทนี้จึงแตกต่างกันไปในแต่ละโรงเรียน ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและความต้องการของสถาบันนั้น ๆ

ปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อการพิจารณา

นอกเหนือจากคะแนนสอบแล้ว การพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในต่างประเทศยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการที่โรงเรียนให้ความสำคัญ

  • เกรดเฉลี่ย (GPA) ใช้สะท้อนถึงความสามารถทางวิชาการและความสม่ำเสมอในการเรียนของนักเรียน
  • จดหมายแนะนำ (Recommendation letters) จดหมายจากครูอาจารย์หรือผู้บริหารโรงเรียนเดิม ซึ่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถ พฤติกรรม และศักยภาพของนักเรียน
  • ประวัติกิจกรรมและผลงาน (Portfolio) โรงเรียนหลายแห่งต้องการเห็นความสนใจและความสามารถพิเศษของนักเรียน นอกเหนือจากด้านวิชาการ ประวัติการเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตร ผลงาน หรือรางวัลที่ได้รับ จะช่วยให้ใบสมัครโดดเด่นขึ้น
  • สัมภาษณ์ (Interviews) การสัมภาษณ์เป็นโอกาสให้นักเรียนได้แสดงบุคลิกภาพ ทัศนคติ ความกระตือรือร้น และความสามารถในการสื่อสารด้วยตนเอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณารับเข้าศึกษาต่อ

สรุปบทความ

หลังจากรู้แล้วว่า เรียนต่อต่างประเทศต้องสอบอะไรบ้าง ควรเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะการสอบแต่ละประเภทใช้เวลาในการฝึกฝนและวางแผนไม่น้อย ยิ่งเริ่มเร็ว ก็ยิ่งมีเวลาพัฒนาคะแนนให้สูงขึ้น นอกจากนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือสถาบันแนะแนวที่มีประสบการณ์จะช่วยให้วางแผนการเรียน การสอบ และการสมัครได้เหมาะสมกับเป้าหมายมากขึ้น

สำหรับผู้ปกครองที่สนใจส่งลูกไปศึกษาต่อในโรงเรียนต่างประเทศ ไม่ว่าจะเรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา หรือเรียนต่อออสเตรเลีย CETA พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลตั้งแต่การเลือกโรงเรียนที่เหมาะสม การสมัครเรียน ไปจนถึงการดูแลระหว่างที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศ เพื่อให้ลูก ๆ ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพและพร้อมก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นใจ สอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จาก CETA ได้ที่