เรียนต่อมัธยมสหรัฐอเมริกา
การเรียนต่อมัธยมอเมริกา คือการเปิดโลกทัศน์ใหม่ สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย พัฒนาภาษาอังกฤษให้แข็งแกร่ง และเตรียมพร้อมสู่รั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก CETA เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของโรงเรียนมัธยมในสหรัฐอเมริกา พร้อมดูแลด้วยบริการครบวงจรที่จะช่วยให้การเดินทางสู่สหรัฐอเมริกาเป็นไปอย่างราบรื่น
ทำไม?
ต้องเรียนมัธยมที่อเมริกา
การเรียนในอเมริกาเปิดโอกาสให้พัฒนาภาษาอังกฤษ และเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยได้ดียิ่งขึ้น
นักเรียนจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและสังคมที่หลากหลาย ซึ่งช่วยเสริมทักษะด้านสังคมและการปรับตัว
หลักสูตรการเรียนมีให้เลือกมากมาย พร้อมตัวเลือกวิชาที่ตอบโจทย์ความสนใจของนักเรียนแต่ละคน
การเรียนในอเมริกายังช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในอเมริกาและทั่วโลก
ช่วงอายุที่เหมาะสม
นักเรียนที่ต้องการเรียนต่อมัธยมที่อเมริกา ต้องมีอายุระหว่าง 14-18 ปี แบ่งเป็นระดับมัธยมต้น (Grade 7-9) และมัธยมปลาย (Grade 10-12)
ช่วงเวลาเปิดรับสมัคร
ภาคการศึกษาในอเมริกาแบ่งออกเป็น 2 ภาคคือ
- Fall (สิงหาคม-ธันวาคม)
- Spring (มกราคม-พฤษภาคม)
หลักสูตรการศึกษามัธยมที่อเมริกา
หลักสูตรการศึกษาของอเมริกาในระดับมัธยมปลาย หรือ Grade 9 – 12 แบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร ดังนี้
หลักสูตรการศึกษา | ระดับชั้นการศึกษา | จุดเด่น |
---|---|---|
Standard High School Curriculum | Grade 9 – 12 | |
Advanced Placement (AP) | Grade 10 – 12 | |
IB (International Baccalaureate) | Grade 11 – 12 |
ตัวเลือกการพักอาศัยสำหรับนักเรียนต่างชาติ
หอพักของโรงเรียน
โฮมสเตย์ (Host Family)
การเรียนต่อมัธยมอเมริกาไม่ยากอย่างที่คิด
CETA พร้อมให้บริการแนะแนวการศึกษาต่อมัธยมต่างประเทศทุกขั้นตอน
“ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย”
วางแผน
CETA ช่วยวางแผนการเรียน และเลือกโรงเรียนที่ใช่สำหรับนักเรียน
สมัครเรียน
CETA ช่วยดำเนินการสมัครเรียน จัดสอบ และยื่นขอวีซ่า
เตรียมพร้อม
จัดปฐมนิเทศเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง
การดูแล
เจ้าหน้าที่ CETA ดูแลจนจบการศึกษา
ประเภทโรงเรียนมัธยมในอเมริกา
โรงเรียนรัฐบาล (Government School)
นักเรียนต่างชาติสามารถเข้าเรียนได้ผ่านโครงการแลกเปลี่ยนหรือวีซ่า J-1 เท่านั้น เรียนได้ไม่เกิน 1 ปี และไม่สามารถรับวุฒิ High School Diploma จากโรงเรียนรัฐบาล
โรงเรียนเอกชน (Private School)
เปิดรับนักเรียนต่างชาติ ค่าใช้จ่ายแตกต่างตามพื้นที่และโรงเรียน เริ่มต้นราวปีละ 700,000 บาท และอาจสูงถึง 2 ล้านบาทต่อปีสำหรับโรงเรียนชั้นนำ
แนะนำโรงเรียนมัธยมในอเมริกา
ประเภทของโรงเรียน

Elite
โรงเรียนชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านวิชาการ กิจกรรม และการผลิตศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายสาขา

Top Academic
โรงเรียนที่เน้นความเป็นเลิศทางวิชาการ หลักสูตรเข้มข้น พร้อมผลักดันนักเรียนสู่มหาวิทยาลัยระดับท็อป

Sports
โรงเรียนที่โดดเด่นทางด้านกีฬา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มี Sports Academy รองรับ และสนับสนุนนักเรียนที่มีศักยภาพเฉพาะด้านกีฬา

Music
โรงเรียนที่มีความเป็นเลิศด้านดนตรี ด้วยหลักสูตรคุณภาพ การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง และมีเวทีแสดงผลงานทั้งในและนอกโรงเรียน

Performing Arts
โรงเรียนเด่นด้านศิลปะการแสดง พร้อมหลักสูตรละคร การเต้น และการร้องเพลง เพื่อพัฒนาความกล้าแสดงออกและความคิดสร้างสรรค์

Arts
โรงเรียนที่โดดเด่นทางด้านศิลปะ ด้วยหลักสูตรและกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการวาดภาพ ประติมากรรม และการออกแบบทัศนศิลป์ พร้อมอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ครบครัน

Design & Technology
โรงเรียนที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านการออกแบบและเทคโนโลยี เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่โลกแห่งการประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ

Computer science
โรงเรียนที่โดดเด่นในหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ การเขียนโปรแกรม และเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย

STEM
โรงเรียนที่มีหลักสูตรที่โดดเด่นใน 4 สาขาหลัก ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์

STEAM
โรงเรียนที่มุ่งเน้นการรวมศิลปะเข้ากับ STEM เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ควบคู่กับทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Cookery
โรงเรียนที่เชี่ยวชาญด้านการประกอบอาหารด้วยหลักสูตรที่เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ พร้อมการเรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

Hospitality
โรงเรียนที่เปิดสอนหลักสูตรด้านการบริการ การโรงแรม และการจัดการการท่องเที่ยวระดับมืออาชีพ พร้อมฝึกปฏิบัติจริงในทุกด้านของอุตสาหกรรม

Special Needs
โรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างเฉพาะบุคคล เพื่อสนับสนุนพัฒนาการที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ

University Pathway
โรงเรียนที่เตรียมความพร้อมนักเรียนเข้าสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งด้านวิชาการ กิจกรรม และการแนะแนวการศึกษาต่อ

Business
โรงเรียนที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทางธุรกิจและการบริหาร ด้วยหลักสูตรด้านการบริหาร การตลาด และการเป็นผู้ประกอบการ
ค้นหาโรงเรียนที่ใช่
4 อันดับ เมืองแนะนำแบ่งตามภูมิศาสตร์อเมริกา

East Coast
- นิวยอร์ก (New York): เมืองศูนย์กลางทางการเงินและศิลป วัฒนธรรม มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Columbia University, New York University
- บอสตัน (Boston): ผู้นำด้านการศึกษาและเทคโนโลยี มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Harvard, MIT
- วอชิงตัน ดีซี (Washington, D.C.): เมืองหลวงมีความสำคัญ ด้านการเมือง มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Georgetown University

West Coast
- ลอสแองเจลิส (Los Angeles): เมืองแห่งภาพยนตร์และบันเทิง มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น USC, UCLA
- ซานฟรานซิสโก (San Francisco): เมืองเทคโนโลยีและนวัตกรรม อยู่ใกล้ Silicon Valley เป็นแหล่งบริษัทไอทีชั้นนำ มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Stanford University, UC Berkeley
- ซีแอตเทิล (Seattle): มีความหลากหลายวัฒนธรรมและ ธรรมชาติที่สวยงาม มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น University of Washington

Midwest
- ชิคาโก (Chicago): มีสถาปัตยกรรมงดงามและเป็นศูนย์กลาง ทางการเงิน มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น University of Chicago
- ดีทรอยต์ (Detroit): เป็นศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมยานยนต์ มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Wayne State University, University of Detroit Mercy, University of Michigan

South
- ฮูสตัน (Houston): เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอวกาศ มีสถานที่ สำคัญอย่าง NASA
- แอตแลนตา (Atlanta): มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและ มีสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำมากมาย
เรียนต่อมัธยมอเมริกา มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
เรียนต่อมัธยมอเมริกา โรงเรียนเอกชน มีค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าเล่าเรียน (Tuition Fee) จะอยู่ที่ 790,000 – 1,500,000 บาทต่อปี
- ค่าที่พัก (Accommodation Fee) จะแตกต่างไปตามประเภทที่พัก
- หากพักกับ Host Family (โฮมสเตย์) ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 620,000 – 750,000 บาทต่อปี
- หากพักที่ Boarding (หอพักนักเรียน) ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 730,000 – 1,350,000 บาทต่อปี
หมายเหตุ : ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน วีซ่า ประกันสุขภาพ หรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ
ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2025 ค่าใช้จ่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนสามารถเช็กกับทาง CETA เพื่ออัปเดตข้อมูลที่ถูกต้อง
ความประทับใจจากผู้ปกครองและนักเรียน
ผมกล้าพูดได้เลยว่าการเรียนต่อต่างประเทศทำให้เรามีในสิ่งที่เด็กนักเรียนไทยหลายคนไม่มี นั่นคือประสบการณ์การใช้ชีวิต ทัศนคติที่เปิดกว้าง ความสามารถในการปรับตัว และที่สำคัญคือความเป็นผู้ใหญ่
Atom, Switt Promsrisawat - Dean Close, UK
ผมเลือกที่จะย้ายไปอังกฤษ เพราะว่าผมรู้สึกว่าอยู่สิงค์โปร์ วัฒนธรรมคือต้องเรียน24ชั่วโมง เรียนหนักมาก ผมก็เลยอยากไปประเทศที่โรงเรียนเขาสอนอีกสไตล์นึง สไตล์ที่เคร่งเครียดน้อยลง มีกิจกรรมร่วมด้วย อังกฤษก็เป็นทางเลือกที่ดี ที่ CETA เขาแนะนำมาให้ ตอนแรกก็สมัครที่หลายที่เหมือนกัน สุดท้ายที่เลือกโรงเรียน Cardiff เพราะว่า ranking เค้าดี ก็ถ้าเกิดสมัครไปผมก็หวังจะตามไปมหาวิทยาลัยที่ดีเหมือนกัน ก็เห็นได้ชัดครับว่าคิดถูกแล้ว
Boss, Suphasan Tangtokit - Cardiff Sixth Form College, UK GCSE - A-Level
การไปเรียนต่อที่ Firbank Grammar School คือจุดเปลี่ยนในชีวิตเลย เหมือนเราได้เปิดโลกทั้งเรื่องของการเรียน วัฒนธรรม และการปรับตัว ถือเป็นการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยที่ Smooth มาก ๆ ค่ะ ต้องขอบคุณพี่ ๆ CETA ที่ช่วยให้ขั้นตอนการไปเรียนต่อออสเตรเลียผ่านไปได้อย่างราบรื่นค่ะ
Titang, Natcha Limpianunchai - Firbank Grammar School, Australia
การมีตัวแทนที่ดี อย่าง CETA ทำให้เราอุ่นใจมาก เพราะว่าเวลาเรามีปัญหาหรือว่าการเดินทาง การติดต่ออะไรที่มีปัญหา เราแค่ทักถาม CETA ทาง CETA ก็จะตอบกลับมาทันทีค่ะ
คุณพ่อคุณแม่ น้องปันปัน
CETA ทำให้เราได้มีโอกาสเข้าไปชมโรงเรียนต่าง ๆ ก่อนที่ลูกจะตัดสินใจเลือกโรงเรียน ซึ่งครอบครัวเราคิดว่ามันสำคัญมาก การที่ลูกได้ไปสัมผัสบรรยากาศก่อนว่าโรงเรียนเป็นยังไง เขาโอเคไหม แล้วได้ตัดสินใจเลือกโรงเรียนด้วยตัวเอง เพราะมันคือความสุขและอนาคตของเขา
คุณพ่อคุณแม่ น้องบอส - Cardiff Sixth Form College, UK GCSE - A-Level
พี่เอาใจใส่มากๆ ครับ ให้ความช่วยเหลือเวลามีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรือการใช้ชีวิต
SunSun- Mercedes College, Australia
การได้เรียนมัธยมที่ออสเตรเลียทำให้ผมไม่กลัวความผิดพลาดครับ เพราะมันทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ และยังทำให้เป็นคนที่กล้าแสดงออกมากขึ้นด้วย
Sydney - Westminster, Australia
CETA ตอบโจทย์ทุกเรื่องเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้อมูลโรงเรียน หลักสูตร สภาพแวดล้อมในโรงเรียน หรือการทำวีซ่า เรียกได้ว่า CETA เป็นคำตอบทุก ๆ คำถามของคุณแม่ค่ะ
คุณณิชชา นภาอำไพพร - คุณแม่น้องซิดนีย์ และ น้องซันซัน